ชนิดและประเภทของเชื้อเพลิง

เตาจำเป็นจะต้องใช้เชื้อเพลิงเพื่อก่อให้เกิดพลังงานความร้อนขึ้น ซึงเชื้อเพลิงที่ใช้กับเตาแก๊สมีหลายชนิดซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
  1. เชื้อเพลิงเหลว (Liquid fuels )
  2. เชื้อเพลิงอัดกระป๋อง (Compressed gas fuels)

เชื้อเพลิงเหลว (Liquid fuels เช่น white gas, kerosene, unleaded gas)

เชื้อ เพลิงเหลวสามารถแบ่งได้หลายชนิด เช่น แอลกอฮอล์, เชื้อเพลิงรถยนต์, น้ำมันก๊าด เป็นต้น ซึ่งมีรายละเอียดและข้อดีข้อเสียดังนี้
  • ข้อดี - เชื้อเพลิงเหลวหาได้ง่ายกว่าและถูกกว่าเชื้อเพลิงแบบอัดแน่น และยังสามารถถ่ายจากภาชนะหนึ่งไปยังภาชนะอื่นได้ด้วย
  • ข้อเสีย – เชื้อเพลิงบางประเภทอาจจะมีการระเหยตัวได้ง่ายก่อนที่จะได้นำมาใช้ด้วยซ้ำ ซึ่งอาจจะทำให้ในบางสถานการณ์เชื้อเพลิงเหลวประเภทนี้ไม่ค่อยจะมี ประสิทธิภาพมากนัก

แอลกอฮอล์ (Alcohol)

แอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิงที่ปลอดภัย เผาไหม้ได้อย่างต่อเนื่องและสะอาด แต่มีเตาเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่ใช้แอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิงได้ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังเผาไหม้ให้เกิดเปลวไฟที่ค่อนข้างเย็น จึงไม่ค่อยเหมาะสำหรับการทำอาหาร และเมื่อแอลกอฮอล์มีการเผาไหม้นั้น มักจะไม่ค่อยเห็นเปลวไฟอย่างชัดเจนซึ่งอาจจะเป็นการเสี่ยงสำหรับอุบัติเหตุ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

เชื้อเพลิงรถยนต์ (Gasoline or Automobile Gas)

เชื้อเพลิงรถยนต์ไม่ค่อยจะเหมาะนักสำหรับการนำมาเติมเตาเพื่อ ทำอาหาร เนื่องจากเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนต่ำเมื่อเผาไหม้แล้วจะทำให้เกิดเขม่า ควัน กลิ่นที่เป็นพิษ และอุดตันท่อเชื้อเพลิงมากกว่า white gas ส่วนเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนสูงมักจะมีการใส่ส่วนผสมหลายๆ อย่างเข้าไปซึ่งจะทำให้การเผาไหม้เป็นไปได้ไม่ดี ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะนำเชื้อเพลิงรถยนต์มาใช้กับเตาประกอบอาหาร ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เชื้อเพลิงชนิดนี้ในการทำอาหารจริงๆ ให้เลือกใช้ที่มีค่าออกเทนต่ำๆ เช่น 84 – 86 และต้องเป็นแบบไร้สารตะกั่วด้วย และควรจะทำอาหารโดยมีการปิดฝาหม้อไว้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เขม่าพิษต่างๆ เข้าไปในอาหาร

น้ำมันก๊าด (Kerosene)

น้ำมันก๊าดเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้กันมาอย่างแพร่หลายและยาวนาน มากสำหรับเตาประกอบอาหาร น้ำมันก๊าดสามารถให้พลังงานความร้อนที่มากได้ในแทบจะทุกสภาพอากาศ แต่น้ำมันก๊าดก็คล้ายกับน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์ ที่จะทำให้เกิดกลิ่นที่เป็นพิษและเกิดเขม่ามาก และเขม่าจำนวนมากเหล่านี้จะทำให้เกิดการอุดตันในหัวเตาได้ง่ายและเร็วมาก ขึ้น นอกจากนี้ เตาที่จะใช้ควรจะมีปั้มความดันสำหรับเก็บเชื้อเพลิงไว้ด้วยเนื่องจากน้ำมัน ก๊าดเป็นเชื้อเพลิงเหลว อย่างไรก็ดี น้ำมันก๊าดเป็นตัวเลือกที่น่าจะเลือกใช้เมื่อไม่มีเชื้อเพลิงชนิดอื่นจริงๆ

เบนซินขาว (White Gas)

เชื้อเพลิงประเภทนี้จะให้เปลวไฟที่ร้อนและสะอาด และดีกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นเนื่องจาก เบนซิจขาวจะใช้ได้กับสภาพอากาศและอุณหภูมิแทบทุกรูปแบบ และเนื่องจากมันเป็นเชื้อเพลิงเหลว ตัวเตาควรจะต้องมีปั้มความดันสำหรับเก็บเชื้อเพลิงไว้ด้วยเช่นเดียวกับ น้ำมันก๊าด เบนซินขาวเป็นแหล่งเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดที่จะใช้กับเตา สำหรับเกือบทุกสภาพอากาศและความสูง

เชื้อเพลิงอัดกระป๋อง (Compressed gas fuels)

  • ข้อดี – พร้อมใช้งานได้ทันทีจากตัวกระป๋อง เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดกว่า และใช้ได้ง่ายกว่าเชื้อเพลิงเหลว และยังให้พลังงานความร้อนที่คงที่ต่อเนื่องอยู่ได้นานกว่าอีกด้วย
  • ข้อเสีย – ราคาแพงกว่าเชื้อเพลิงเหลว และเชื้อเพลิงอัดแน่นประเภทนี้จะต้องบรรจุในกระป๋องเฉพาะของมันซึ่งอาจจะทำ ให้เปลืองเนื้อที่ นอกจากนี้ยังไม่สามารถเติมเชื้อเพลิงลงในกระป๋องที่หมดแล้วได้อีกด้วย และในบางพื้นที่เราก็ไม่สามารถจะหาซื้อเชื้อเพลิงกระป๋องได้เช่นกัน

เชื้อเพลิงผสม (Blended Fuel)

ส่วนมากแล้วจะเป็นการผสมระหว่าง propane กับ butane และ/หรือ isobutane เมื่อเชื้อเพลิงมีส่วนผสมของ isobutane มันจะเผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ถึงแม้ว่าความกดภายในกระป๋องจะลดลงแล้วก็ตาม เชื้อเพลิงผสมจะใช้งานได้ดีกว่าถ้าเราใช้เชื้อเพลิงประเภท butane หรือ isobutane เดี่ยวๆ แต่อย่างไรก็ดี เชื้อเพลิงผสมก็มีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถจะใช้งานได้ในสภาพอุณหภูมิที่ต่ำ เกินไป ซึ่งไม่ควรจะต่ำกว่า 30 องศาฟาเรนไฮต์ เชื้อเพลิงผสมมักจะใส่มาในกระป๋องที่สามารถทิ้งได้หลังใช้งานหมดแล้ว เชื้อเพลิงผสมมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในสภาพอากาศ ที่หลากหลาย แต่คงไม่ค่อยเหมาะนักสำหรับพื้นที่สูงในสภาพอากาศที่หนาวเย็น

บิวเทน (Butane)

เชื้อเพลิงชนิดนี้เป็นที่นิยมกับแพร่หลายมากในยุโรป บรรจุอยู่ในกระป๋องซึ่งสามารถจะทิ้งได้เมื่อใช้หมดแล้ว butane บริสุทธิ์จะมีประสิทธิภาพดีมากในการเผาไหม้ แต่ก็จะไม่สามารถใช้ได้ในอากาศที่หนาวเกินไปหรือต่ำกว่า 50 องศาฟาเรนไฮต์ แต่อย่างไรก็ดี butane บริสุทธิ์ก็ให้ความร้อนได้ไม่ดีเท่ากับเชื้อเพลิงผสม

ไอโซบิวเทน (Isobutane)

เชื้อเพลิงประเภทนี้เป็นตระกูลเดียวกับ butane มักจะใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอุตสาหกรรมการบิน และจะเผาไหม้ได้ดีกว่า butane เชื้อเพลิงชนิดนี้จะใช้ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่า butane ได้เล็กน้อย หรือที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 40 องศาฟาเรนไฮต์ isobutene จะบรรจุอยู่ในกระป๋องที่สามารถทิ้งได้หากใช้หมด และนับว่าเป็นเชื้อเพลิงที่เหมาะสำหรับการใช้งานในหลายสภาพอากาศได้เช่นกัน

โพรเพน (Propane)

Propane เป็นก๊าซบริสุทธิ์ที่ให้พลังงานความร้อนที่คงที่อย่างต่อเนื่อง และเผาไหม้ได้อย่างสะอาดและมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ดีปานกลางในสภาพอากาศหนาวเย็น และบรรจุอยู่ในกระป๋องที่สามารถทิ้งได้ เชื้อเพลิงชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในหลายๆ สภาพอากาศ แต่ไม่ค่อยเหมาะนักสำหรับพื้นที่สูงที่มีอากาศหนาวเย็น

credit http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_26.html

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น