การเลือกซื้อไฟฉาย

ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองแล้ว คุณควรจะมีไฟฉายติดตัวไปทุกครั้งที่คิดจะเข้าป่า เพราะไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องรู้สึกดีใจที่มีไฟฉายติดตัวมาด้วยแน่ๆ เราลองมาดูกันว่าเวลาจะหาซื้อไฟฉายสักอันควรจะพิจารณาอะไรกันบ้าง

ขั้นที่ 1: พิจารณาประเภทของไฟฉายแต่ละชนิด

ปกติแล้วนักเดินป่าส่วนมากมักจะพกไฟฉายขนาดเล็กแบบพกพาติดตัว ไม่ว่าจะเป็นไฟฉายมือถือ หรือไฟฉายติดศีรษะ แต่หากมีการเดินทางกันเป็นหมู่คณะหรือกลุ่มใหญ่ๆ แล้ว บางครั้งอาจจะมีการนำตะเกียงหรือไฟที่ใช้สำหรับให้ความสว่างในบริเวณกว้างไป ด้วย เพื่อความสะดวกสบายในการทำกิจกรรมต่างๆ

  • ไฟฉายแบบพกพา (Personal flashlights) – หมายถึงไฟฉายขนาดเล็กที่ใช้แบตเตอรี่หรือถ่านไฟฉายเป็นแหล่งกำเนิดไฟ เป็นไฟฉายที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดเนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และง่ายต่อการใช้งาน และยังสามารถจะกำหนดทิศทางของไฟที่เราต้องการได้ด้วยว่าจะส่องไฟไปทางใด
  • ไฟฉายติดศีรษะ (Headlamps) – มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับไฟฉายแบบพกพา แต่จะมีข้อดีเหนือกว่าตรงที่ว่าสามารถทำให้เราใช้มือทั้งสองข้างได้โดยไม่ ต้องใช้มือข้างใดข้างหนึ่งไปถือไฟฉายเอาไว้ จะสะดวกมากเวลาเราต้องการตั้งเต็นท์ ทำกับข้าว หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ต้องใช้มือทั้งสองข้างพร้อมกัน


  • ตะเกียง (Candle lanterns) – จะให้แสงสว่างที่คงที่ และมักจะมีราคาไม่แพงมากนัก เหมาะสำหรับการใช้งานในเวลาที่ต้องการจะอ่านหนังสือ หรือรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ต้องการแสงที่สว่างมากนัก แต่ต้องการแสงในช่วงเวลานานๆ และยังประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย
  • ตะเกียงหรือไฟสำหรับส่องบริเวณ (Lanterns/area lights) – เหมาะสำหรับเวลาที่ต้องการแสงสว่างในบริเวณกว้าง ใช้ในการเดินทางที่มีระยะเวลาค่อนข้างยาวนาน และมีสมาชิกจำนวนมาก แต่ตะเกียงหรือไฟส่องบริเวณนี้จะมีน้ำหนักมากกว่าไฟฉายหรือตะเกียงชนิดอื่นๆ และต้องใช้ก๊าซหรือเชื้อเพลิงเหลวเป็นแหล่งเชื้อเพลิงแทนแบตเตอรี่ ซึ่งอาจจะยากต่อการติดตั้ง

ขั้นที่ 2: พิจารณาประเภทของแหล่งพลังงานที่จะใช้

เราจำเป็นจะต้องพิจารณาถึงแหล่งพลังงานที่จะใช้กับไฟฉายหรือ ตะเกียงของเราด้วย เนื่องจากเราจำเป็นจะต้องรู้ด้วยว่าแบตเตอรี่หรือเชื้อเพลิงที่จะใช้นั้นมี น้ำหนักมากเพียงใด ใช้ได้นานแค่ไหน และใช้ง่ายหรือยาก เพราะมันหมายถึงว่าน้ำหนักของเชื้อเพลิงจะกลายเป็นภาระหนักสำหรับเราเพิ่ม ขึ้นอีกด้วยเช่นกัน

  • ถ่านไฟฉาย (Batteries) – เป็นตัวเลือกที่สะดวกสบาย หาง่าย และราคาไม่แพง แต่มันก็อาจจะมีน้ำหนักมากได้หากเราต้องเดินทางในระยะเวลานานๆ และต้องเตรียมถ่านไฟฉายไปจำนวนมากๆ แต่อย่าลืมว่าไม่ว่าเราจะเอาเข้าไปเท่าใด เมื่อใช้หมดแล้วเราควรจะต้องเอาติดตัวกลับออกมาทิ้งให้ถูกต้องข้างนอกด้วย ทุกครั้ง
  • อัลคาไลน์ (Alkaline) – ราคาถูก ใช้ได้นาน และเวลาแบตเตอรี่ใกล้จะหมดมันจะค่อยๆ หรี่ลงทีละนิดๆ ทำให้เรารู้ได้ว่าใกล้เวลาที่แบตเตอรี่จะหมดแล้ว แต่ข้อเสียคืออัลคาไลน์ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในบริเวณที่อากาศ หนาวเย็น
  • ลิเธียม (Lithium) – มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอัลคาไลน์ น้ำหนักเบากว่า และสามารถใช้ในสภาพอากาศหนาวเย็นถึงขนาดติดลบได้โดยแทบจะไม่มีปัญหาเรื่อง ประสิทธิภาพลดลงเลย แต่ลิเธียมก็มีราคาแพงกว่าอัลคาไลน์พอสมควร และเมื่อใช้จนแบตเตอรี่หมดแล้วมันก็จะดับทันทีโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าเลย


  • นิกเกิลแคดเมียม (Nickel-cadmium) – ราคาอาจจะดูแพงหากซื้อในครั้งแรก แต่ในระยะยาวแล้วจะคุ้มกว่ามาก เพราะสามารถรีชาร์จใหม่ได้หลายครั้งมาก บางก้อนอาจจะรีชาร์จใหม่ได้นับ 1,000 ครั้ง แต่ในการชาร์จแต่ละครั้งก็ไม่สามารถจะใช้งานได้นานเท่าอัลคาไลน์หนึ่งก้อน และบางครั้งประสิทธิภาพอาจจะลดหย่อนไปบ้างในการชาร์จแต่ละครั้ง ปัจจุบันมีเครื่องชาร์จพลังแสงอาทิตย์ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาจำหน่าย แล้ว ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำติดตัวไปเที่ยวด้วย
  • เทียนไข (Candles) – มีน้ำหนักเบา ราคาถูก และใช้ได้นานจนกว่าจะหมด (ไม่มีวันหมดอายุ!) แต่แทบจะให้ความอบอุ่นไม่ได้เลย และอาจจะไม่สว่างเท่ากับแหล่งพลังงานอื่นๆ และยังอาจจะก่อให้เกิดอันตรายหรือไฟไหม้ได้หากใช้ไม่ระวัง
  • เชื้อเพลิงเหลว / ก๊าซกระป๋อง (Liquid fuel, compressed gas) – ตะเกียงหรือไฟส่องบริเวณบางชนิดสามารถจะใช้เชื้อเพลิงหรือก๊าซชนิดเดียวกับ ที่ใช้สำหรับการหุงหาอาหารได้ ซึ่งเป็นเรื่องสะดวกมากเพราะเราสามารถหาเราต้องใช้เชื้อเพลิงดังกล่าวอยู่ แล้ว แต่ในบางครั้ง ก็จำเป็นจะต้องเอาเชื้อเพลิงไปเพิ่มมากขึ้นจากเดิมเพราะต้องใช้ทั้งทำอาหาร และให้ความสว่าง หรือหากเราเอาไปไม่พอก็อาจจะไม่มีไฟใช้เมื่อทำอาหารอยู่ก็เป็นได้

ขั้นที่ 3: พิจารณาลักษณะการใช้งาน

ก่อนอื่นเราควรจะคิดและพิจารณาความต้องการของเราเองก่อนว่าเราต้องการไฟฉายไปเพื่อทำอะไร โดยการตอบคำถามดังต่อไปนี้

  • คุณต้องการไฟที่น้ำหนักเบาและพกพาสะดวกหรือไม่
  • คุณต้องการไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ด้วยหรือไม่
  • คุณต้องการไฟที่สามารถเปิด-ปิดได้ง่ายๆ หรือไม่
  • คุณต้องการไฟที่สามารถจะส่องโฟกัสไปที่จุดใดจุดหนึ่งได้หรือไม่
  • คุณต้องการไฟที่สามารถจะแขวนไว้สูงๆ เพื่อให้ความสว่างรอบบริเวณได้หรือไม่
  • คุณต้องการไฟที่สามารถจะถือหรือสวมใส่ได้เวลาทำงานต่างๆ โดยสามารถใช้สองมือได้อย่างอิสระหรือไม่

เมื่อตอบคำถามต่างๆ เหล่านี้ได้แล้ว คุณจึงจะรู้ได้ว่าไฟฉายหรือตะเกียงชนิดใดเหมาะกับความต้องการของคุณ

credit http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_40.html

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น