วัสดุที่ใช้บุถุงนอน (Fill)

วัสดุที่ใช้บุถุงนอนจะเป็นสิ่งที่ป้องกันไม่ให้ความอบอุ่นจากด้านในถุง นอนหายไป และป้องกันไม่ให้ความเย็นจากด้านนอกเข้ามาในถุงนอน ซึ่งวัสดุที่ดีจะต้องสามารถให้ความอบอุ่นมากและมีน้ำหนักเบา วัสดุที่ใช้ทำถุงนอนในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ขนเป็ด (Down) และใยสังเคราะห์ (Synthetic Fills)


ขนเป็ด (Down)


ขนเป็ดในปัจจุบัน ยังคงเป็นวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในด้านการให้ความอบอุ่น น้ำหนัก และขนาดเมื่อทำการบีบอัดแล้ว ซึ่งหากเปรียบเทียบกับผ้าใยสังเคราะห์แล้ว ขนเป็ดจะมีประสิทธิภาพมากกว่า เมื่อกางถุงนอนออก หรือถุงนอนไม่ได้ถูกอัดเก็บอยู่ในถุงใส่ถุงนอนแล้ว ขนเป็ดที่บุอยู่ด้านในจะพองตัวขึ้นและกระจายตัวไปทั่วถุงนอนอย่างทั่วถึง ถุงนอนขนเป็ดจะคืนสภาพและฟูนุ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วเต็มทั่วทั้งถุงนอน ในขณะที่วัสดุใยสังเคราะห์ไม่สามารถจะกระจายตัวและคืนสภาพได้ดีเท่าขนเป็ด นอกจากนี้ขนเป็ดยังมีอายุการใช้งานยาวนานหากมีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง (อย่างน้อย 10-15 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับใยสังเคราะห์ซึ่งจะมีอายุประมาณ 3-6 ปี)

แต่ขนเป็ดก็มีจุดอ่อนเช่นกัน หากขนเป็ดมีความเปียกชื้น ประสิทธิภาพในการให้ความอบอุ่นจะด้อยกว่าผ้าใยสังเคราะห์ และจะแห้งได้ยากกว่า นอกจากนี้ขนเป็ดยังอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ สำหรับบางคนที่อาจจะแพ้ขนสัตว์ หากเราต้องการขนเป็ดที่มีคุณภาพดี ราคาก็จะสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับใยสังเคราะห์

โดยปรกติเมื่อเราซื้อถุงนอนขนเป็ด ถุงนอนแต่ละรุ่นจะกันหนาวได้ไม่เท่ากัน ซึ่งถุงนอนขนเป็ดจะมีตัวเลขของ Fill Power กำกับอยู่ เช่น 600, 700, 800 ซึ่งตัวเลขนี้จะแสดงถึงความสามารถในการกักอากาศเป็นลูกบาศก์นิ้วต่อขนเป็ด 1 ออนซ์ Fill power เป็นการวัดปริมาณอากาศหรือช่องว่างของขนเป็ดต่อหนึ่งออนซ์ ซึ่งมาจากลักษณะความยาวและความหนานุ่มเป็นปุยของขนเป็ด เช่น ถุงนอนที่ระบุว่ามี Fill power 550 หมายถึงถุงนอนที่มีปริมาณขนเป็ด 56000 กลุ่มต่อหนึ่งออนซ์ ในขณะที่ถุงนอนที่มี Fill power 750 จะมีขนเป็ด 24000 กลุ่มต่อหนึ่งออนซ์ จะเห็นได้ว่าขนเป็ดหนึ่งกลุ่มนั้น ถ้ายิ่งคุณภาพดีก็จะยิ่งมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่าและใช้จำนวนน้อยกว่าต่อ พื้นที่หนึ่งออนซ์เท่ากัน ขนเป็ดคุณภาพดีตัวเลขก็จะสูงขึ้น ซึ่งจะกันหนาวได้มากขึ้นแต่ราคาก็จะสูงขึ้นด้วย

ใยสังเคราะห์ (Synthetic Fill)

ใยสังเคราะห์จะมีชื่อเรียกในแต่ละยี่ห้อของผู้ผลิตต่างกันไป และมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับขนเป็ด ซึ่งใยสังเคราะห์ในตลาดจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

  1. เส้นใยขนาดยาวต่อเนื่องและเกาะติดกันเป็นกลุ่มก้อน (Long continuous-filament fibers) มักจะใช้บุในถุงนอนที่ค่อนข้างจะมีการขึ้นรูปโครงที่แน่นอนเป็นรูปเป็นร่าง โดยปกติแล้ว ตัวเลขที่กำกับไว้หมายถึงน้ำหนักต่อหนึ่งตารางหลา ในปัจจุบันยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักกันก็คือ Polarguard, Polarguard HV, Polarguard 3D และ Laminite
  2. เส้นใยขนาดสั้นและไม่เกาะติดกันเป็นกลุ่มก้อน (Much shorter, noncontinuous-filament fibers) อาจจะใช้บุทั้งในถุงนอนที่มีการขึ้นรูปโครงที่แน่นอน และในถุงนอนที่ไม่มีรูปร่างที่แน่นอน ชื่อทางการค้าในตลาดก็คือ Hollifil, Hollofil 2 และ Quallofil
  3. เส้นใยขนาดสั้นพิเศษ ซึ่งมีลักษณะรูปร่างคล้ายๆ ขนเป็ด (Even-shorter-fibered formed somewhat resemble down) โดยที่เส้นใยประเภทนี้อาจจะมีการเกาะกลุ่มกันหรือไม่ก็ได้ ชื่อที่ใช้ในปัจจุบันคือ Lite Loft, Micro Loft, Primaloft และ Thermolite Extreme

จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาใยสังเคราะห์ไปมาก ในอนาคตเราอาจจะเห็นใยสังเคราะห์ที่สามารถให้ความอบอุ่นและน้ำหนักเบาเหมือน กับขนเป็ดก็เป็นได้

thank http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_12.html

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น