ประวัติและความเป็นมาของเปล

เปล (Hammock) ได้มีใช้กันมานานแล้ว แต่คนที่คิดค้นเปลเป็นคนแรก ยังไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ แต่ได้มีบันทึกของโคลัมบัสซึ่งเป็นผู้ค้นพบโลกใหม่หรือประเทศอเมริกาใน ปัจจุบัน ได้กล่าวไว้ว่า “มีชาวอินเดียนแดงได้มาที่เรือ เพื่อมาทำการแลกเปลี่ยนสิ่งของ ซึ่ง พวกอินเดียนแดงได้นำพวกผ้า เปล (สมัยนั้นเรียกว่า hamacas) หรือตาข่ายที่เขาไว้ใช้นอนมาแลกเปลี่ยน” ซึ่งนี่เป็นหลักฐานสำคัญชิ้นแรก ๆ ชิ้นหนึ่งที่แสดงถึงต้นกำเนินของเปล

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ต้นกำเนิดของเปลนั้นมาจากชาวอินเดียนแดงเผ่ามายันต์ (Mayan Indian) ซึ่งชาวมายันต์นี้ได้มีถิ่นอาศัยแถบทวีปอเมริกาและได้ใช้เปลมาแล้วกว่า 1000 ปี และมีความผูกพันกับเปลมาตลอดชีวิต เรียกได้ว่าเกิดและตายบนเปลได้เลยทีเดียว (ซึ่งอาจจะเทียบได้กับคนปัจจุบันที่เกิดบนเตียงและตายบนเตียงนั่นเอง)

เปลในรุ่นแรกๆ จะทำจากวัสดุจากเปลือกไม้ของต้น Hamak ซึ่งต้นไม้นี้จะมีลักษณะคล้าย ๆ กับต้นอโลเวร่า ที่นิยมมาบำรุงผิว ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาวัสดุที่ใช้ทำเปลเพื่อให้มีความอ่อนนุ่มขึ้น นอนสบายขึ้น และได้มีการพัฒนามาใช้ผ้าฝ้ายเมื่อ 50-60 ปีที่ผ่านมา

หลังจากที่โคลัมบัสได้สำรวจอเมริกาพบ ซี่งในสมัยนั้นเขาจะเรียกโลกใหม่หรือ New World ซึ่งสมัยนั้นโคลัมบัสหวังว่าจะค้นพบทอง สมบัติ ในแผ่นดินนี้ และเขาก็ได้มาพบกับอินเดียนเผ่ามายันต์นี้ที่โลกใหม่นี่เอง ซึ่งชาวอินเดียนได้มีการเดินทางไปยังทั่วทวีปอเมริกาเพื่อทำการค้าขาย ซึ่งในสมัยนั้นจะเป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน ทำให้เปลเหล่านี้ถูกกระจายออกไปยังสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งโคลัมบัสก็ได้พบกับเปลนี้และเห็นเป็นของแปลกใหม่จึงได้นำเปลเหล่านี้ติด ขึ้นเรือไปด้วย ซึ่งต่อมาเปลนี้ก็ได้เริ่มนิยมในแถบทวีปยุโรปและหมู่คนเดินเรือ เพราะประหยัดเนื้อที่บนเรือในการใช้นอน

หลังจากที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ก็มีการนำไปใช้ในการทหาร และในปีคริสศักราชที่ 19 ในประเทศอังกฤษก็ได้เริ่มมีการใช้เปลกับที่คุมขังนักโทษ เพราะช่วยประหยัดเนื้อที่ในห้องขัง เพียงแค่แขวนเวลานอนเท่านั้น

ในปัจจุบันประมาณกันไว้ว่ามีผู้ใช้เปลทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคน และกำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ การท่องเที่ยวในปัจจุบันก็นิยมในการใช้เปล จากอดีตที่ใช้เต็นท์ เนื่องจากน้ำหนัก ติดตั้งได้ง่าย ประกอบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้เปลทนทาน และนอนสบายขึ้น แล้วเราควรจะเปลี่ยนมาใช้เปลกันได้หรือยัง ?

thank http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_44.html

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น